ภายหลังเหตุการณ์ ของ เหตุยิงนิโคลัส กรีน

ครอบครัว

ในเดือนพฤษภาคม 1996 ครอบครัวกรีนได้มีลูกแฝดใหม่คือเด็กหญิงลอรา และเด็กชายมาร์ติน นับตั้งแต่การสูญเสียนิโคลัส ครอบครัวกรีนได้ให้การสนับสนุนอย่างแรงกล้าในการบริจาคอวัยวะ พวกเขาได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อส่งต่อแนวคิดการบริจาคอวัยวะและเรื่องราวของพวกเขา

ในประเทศอิตาลี

ภายหลังการตัดสินใจบริจาคอวัยวะ พ่อแม่ของนิโคลัสได้รับการต้อนรับโดยประธานาธิบดีอิตาลีในขณะนั้น ออสการ์ ลุยจิ สกาลแฟโร และได้มอบรางวัลเชิดชูเกียรติระดับสูงสุดของพลเมือง "Medaglia d'Oro al Merito Civile" แก่พวกเขา ภายหลังการเสียชีวิตของนิโคลัส การบริจาคอวัยวะได้เพิ่มตัวขึ้นสูงมากในประเทศอิตาลี ที่ซึ่งในอดีตเคยเป็นหนึ่งประเทศที่มีอัตราการบริจาคอวัยวะต่ำที่สุดในยุโรป ข้อมูลจากปี 2017 ระบุว่าอัตราการบริจาคอวัยวะได้เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่านับตั้งแต่เหตุการณ์นี้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงโรงเรียนประถมมากมายที่ได้ตั้งชื่อตามนิโคลัสด้วย

การดำเนินคดี

ชายทั้งสองถูกจับกุมในวันที่ 2 พฤศจิกายน 1994 ชายทั้งสองเป็นคนของมาเฟียชื่อ Francesco Mesiano และ Michele Iannello[5] พวกเขาถูกตัดสินคดีที่คาตานซาโร โดยศาลที่ประกอบด้วยผู้พิพากษาสามคน และในวันที่ 17 มกราคม 1997 ศาลได้ตัดสินว่าจำเลยไม่มีความผิด เรจินาลด์ไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้เนื่องจากทั้งคู่สวมหน้ากาก รวมถึงเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะภายนอกนั้นเริ่มมืดค่ำแล้ว[6][7] เย่างไรก็ตามในปีถัดมา ด้วยไม่มีหลักฐานใหม่ก็ตาม ศาลอุทรณ์ได้ตัดสินให้ Iannello จำคุกตลอดชีวิต และ Mesiano จำคุก 20 ปี[8] ศาลสูงสุดอิตาลีสนับสนุนมตินี้ในปี 1999[7]

การบริจาคร่างกาย

ภายหลังการเชียชีวิตของนิโคลัส อะตราการบริจาคร่างกายได้เพิ่มขึ้นสูงมากในประเทศอิตาลี ที่ซึ่งในอดีตเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการบริจาคอวัยวะต่ำที่สุดในทวีปยุโรป[2] ข้อมูลจากปี 2017 ระบุว่าอัตราการบริจาคอวัยวะในประเทศอิตาลีเพิ่มสูงขึ้นถึงสามเท่าภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ชื่อของนิโคลัสได้เป็นที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคอวัยวะในอิตาลีมานับแต่นั้น และเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้บริจาคอวัยวะที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก ผลจากการตัดสินใจของครอบครัวกรีนได้ถูกเรียกขานว่าเป็น "ปรากฏการณ์นิโคลัส" (l'Effetto Nicholas) อันไว้ใช้เรียกไม่เพียงแต่การบริจาคอวัยวะ แต่ยังรวมถึงทุกสิ่งที่เป็นเรื่องดีอันเกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ[6]